แฮร์รีพอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม โวลเดอมอร์ และเหล่าผู้เสพความตายสร้างความเสียหายและสับสนอลหม่านไปทั่วเกาะอังกฤษ คอร์นีเลียส ฟัดจ์ รัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ จำเป็นต้องลาออกเพราะถูกต่อต้านคัดค้านอย่างรุนแรงที่ไม่สามารถจัดการกรณี โวลเดอมอร์ ได้ จากนั้น รูฟัส สคริมเจอร์ ได้ขึ้นเป็นรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์แทน ได้มีการแจ้งเตือนภัยไปยังนายกรัฐมนตรีของมักเกิ้ล และอาเธอร์ วีสลีย์ ก็ได้เลื่อนขั้น
ที่บ้านของสเนป ในสุดตรอกช่างปั่นฝ้าย นาร์ซิสซา แม่ของเดรโก มัลฟอย และพี่สาวเจ้าอารมณ์ เบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์ มาหาเขา และให้สเนปปฏิญาณไม่คืนคำว่าจะปกป้องเดรโกระหว่างปฏิบัติภารกิจเพื่อจอมมารและหากเดรโกทำตามคำสั่งไม่สำเร็จ
อัลบัส ดัมเบิลดอร์ไปหาแฮร์รี่ที่บ้านเดอร์สลีย์และขอให้แฮร์รี่ไปเยี่ยมฮอเรซ ซลักฮอร์นซึ่งเกษียณแล้วด้วยกัน แฮร์รี่พบว่ามือขวาของดัมเบิลดอร์มีรอยผิดปกติสีดำ ดัมเบิลดอร์ขอให้ซลักฮอร์นกลับไปสอนที่ฮอกวอตส์ และได้รับความช่วยเหลือจากแฮร์รี่โดยที่แฮร์รี่เองไม่รู้ตัว หลังจากนั้นช่วงปิดเทอมที่เหลือ แฮร์รี่ได้ไปอยู่กับครอบครัววีสลีย์และเฮอร์ไมโอนี่ที่บ้านโพรงกระต่าย บิล วีสลีย์ ตกลงหมั้นหมายกับเฟลอร์ เดอลากูร์ ผู้เข้าแข่งขันประลองเวทไตรภาคีจากโรงเรียนโบซ์บาตงโดยทางบ้านไม่เห็นด้วย (โดยเฉพาะจินนี่ นางวีสลีย์ และเฟร็ดกับจอร์จ) ช่วงปิดภาคฤดูร้อนนี้ แฮร์รี่มีเวลาอยู่กับจินนี่และเกิดความรู้สึกต่อเธอหลายอย่างปะปนกัน แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่ได้รับผลสอบวิชาพ่อมดระดับสามัญ ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่ได้คะแนนสูงทุกวิชา ส่วนรอนกับแฮร์รี่ตกวิชาพยากรณ์ศาสตร์และประวัติศาสตร์เวทมนตร์ ทำให้ทั้งคู่ไม่สามารถลงเรียนวิชาปรุงยาเพื่อการสอบความรู้พ่อมดเบ็ดเสร็จสมบูรณ์ ได้ เพราะสเนปจะรับเฉพาะนักเรียนที่ได้คะแนน “ด” (ดีเยี่ยม) เท่านั้น ซึ่งวิชานี้เป็นวิชาบังคับสำหรับอาชีพที่แฮร์รี่ใฝ่ฝัน คือ เป็นมือปราบมาร
ระหว่างการซื้อของสำหรับปีการศึกษาใหม่ที่ฮอกวอตส์ในตรอกไดแอกอน แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่เห็นเดรโก มัลฟอย ลอบออกไปที่ตรอกน็อกเทิร์น จึงตามไปและเห็นมัลฟอยเข้าร้านบอร์เจ็นและเบิร์กส์ ซึ่งเป็นร้านขายของเกี่ยวกับศาสตร์มืด พวกเขาเห็นเดรโกข่มขู่นายบอร์เจ็นให้ซ่อมของชิ้นหนึ่งและเก็บอีกชิ้นหนึ่งไว้ให้เขา อ่านต่อ